ตำนานน้ำเงี้ยว เมนูล้านนา ที่มาพร้อมกับความอร่อย น้ำเงี้ยว น้อยคนนักที่จะรู้จักและเคยลิ้มรสของอาหารล้านนานี้ ส่วนผสมของน้ำเงี้ยวคือ เลือดหมู กระดูกหมู ดอกเงี้ยว ขนมจีน มะเขือเทศ พริกแห้งทอด ต้นหอมผักชีโรยหน้า เวลากินก็จะกินกับกะหล่ำหั่นฝอย ถั่วงอกและผักกาดดอง ใส่พริกทอด มะนาวและแคบหมู น้ำเงี้ยวมีน้ำซุปข้น เพราะใส่เลือดคล้ายๆกับก๋วยเตี๋ยวเรือน้ำตก
แต่พริกแกงที่ใส่ต่างกัน และน้ำเงี้ยวกินกับเส้นขนมจีนรสชาติเข้ากันมาก ๆ ส่วนผสมต่าง ๆ ก็เข้ากันอย่างลงตัว ให้รสชาติที่กลมกล่อม น้ำซุปของน้ำเงี้ยวใช้น้ำต้มกระดูกหมู มีรสชาติเค็ม เผ็ดนิดหน่อย ทำให้น้ำซุปนั้นมีรสหวานที่ได้จากน้ำต้มกระดูกหมู ดอกเงี้ยว ออกรสเปรี้ยวมะเขือเทศนิดหน่อย ต้นหอมผักชี กินกับผักสด พูดถึงที่มาของชื่อ “น้ำเงี้ยว” ก็คงจะมาจาก “ดอกเงี้ยว” ที่ใส่ในน้ำเงี้ยว นี่มาจากต้นเงี้ยวที่มีหนาม ที่เล่าว่าใครผิดศีลข้อ 3 ก็จะได้ปีนต้นเงี้ยว ต้นเงี้ยวที่นำเกสรดอกเงี้ยวมาใส่ก็มีหนามเช่นกัน แต่โดยทั่วไปไม่มีใครปีนขึ้นไปเก็บ จะรอให้มันหล่นลงมาที่ใต้ต้นแล้วค่อยไปเก็บ ก่อนนำมาทำน้ำเงี้ยวก็จะต้องนำมาแช่น้ำให้นิ่มก่อน ก็เลยตั้งชื่อว่า น้ำเงี้ยว ส่วนผสม หมูบด ซี่โครงอ่อน เลือดไก่ มะเขือเทศสีดา ดอกงิ้ว พริกน้ำเงี้ยว กะปิ น้ำปลา น้ำตาล กระเทียมเจียว วิธีทำ 1.เริ่มเคี่ยวกระดูกอ่อนและตีนไก่รอไว้ก่อนกว่าจะเปื่อยหั่นของเสร็จพอดี 2.หั่นเลือดไก่เตรียมหมูบด 3.แช่ดอกงิ้วรอไว้ นานๆหน่อยสักชั่วโมงนึงเวลาต้มจะได้เปื่อยง่ายๆ 4.หั่นมะเขือเทศทั้งหมด ก่อนหั่นล้างให้สะอาด 5.เจียวกระเทียมเตรียมไว้ 6.มาลงมือทำกันเลย 7.นำพริกแกงมาผัดกับน้ำมันที่ได้จากการเจียวกระเทียม 8.ใส่มะเขือเทศลงไปผัดกับพริกแกงให้ยุบ 9.เมื่อมะเขือเทศสุกแล้ว 10.เทลงในหม้อที่เคี่ยวกระดูก 11.ตามด้วยหมูบดและเลือดไก่ 12.ใส่กะปิลงไปเลย ใช้แทนถั่วเน่าไม่ชอบกลิ่นถั่วเน่า 13.คนทุกอย่างให้ละลายเข้ากัน ปรุงรสตามชอบ ออกเค็มหวาน ปล่อยให้เดือด ลดไฟลงเคี่ยวไปเรื่อยๆ 14.ใส่ดอกงิ้วที่แช่น้ำลงไปเคี่ยวด้วยจะได้นิ่มอร่อย 15.ชิมอีกครั้ง ตามชอบ เราชอบออกหวานนิดๆเปรี้ยวนิดๆ เค็มตาม 16.เเค่นี้ก้อเสร็จพร้อมรัปทาน หรี่ไฟอ่อนเคี่ยวไปเรื่อยๆ 17.เตรียมขนมจีน ตักราด โรยด้วยเครื่องเคียงต่างๆ